บทความนี้แปลและเรียบเรียงจากบทความดั้งเดิมตามลิงก์ด้านบน เราขอขอบคุณทางเจ้าของเรื่องไว้ ณ ที่นี้ ข้อความบางตอนได้เพิ่มความคิดเห็นของผู้เรียบเรียงไว้ในวงเล็บแล้ว

ว่าด้วยต้นทุนการสร้าง Super App : Super App ได้เกิดขึ้นมาเป็นวาระฮ็อตฮิตแห่งวงการ Software ซูปเปอร์แอพ คือ แพลตฟอร์มในแบบที่มีบริการทุกอย่างรวมอยู่ในตัวมันเอง ที่จะให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง และที่รู้จักกันอย่างดี เช่น การให้บริการรถมอเตอร์ไซด์รับส่งอาหารออนไลน์ รวมไปถึงการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ พร้อมกับกระบวนการทางด้านการเงิน Super App ได้เติบโตขึ้นมา มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ได้ก็เพราะความสะดวกและหลากหลาย โดยเฉพาะในแถบเอเชียและประเทศจีน

ในขณะที่ การสร้าง Super App ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย มันจะต้องใช้การลงทุนเป็นอย่างมาก ทั้งเวลา เงินทองและทรัพยากรต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อทำให้การให้บริการเกิดขึ้นได้อย่างไร้รอยต่อและเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ที่มีความสามารถที่จะดูแลปฏิบัติต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง ค่าใช้จ่ายในการผลิต Super App จะเพิ่มขึ้นไปอย่างมากตั้งแต่การออกแบบหน้าตาไปจนถึงการสร้างอัลกอริทึมภายในตัวมัน

เราจะลองมาพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ แต่ละชิ้นส่วน ในตัว Super App ที่มันจะถูกนำมาเป็นตัวกำหนดต้นทุนในการพัฒนา Super App โดยจะพิจารณาจากองค์ประกอบพื้นฐานแต่ละตัว ที่มาประกอบกันเป็น Super App ที่ประสบความสำเร็จแล้ว รวมไปถึงกระบวนการ และขั้นตอนทางธุรกิจต่างๆ ที่ประกอบขับเคลื่อนกันจนเป็นธุรกิจ Super App แล้วคุณผู้อ่านก็จะเข้าใจได้ว่ามันจะถูกสร้างขึ้นมาและมีต้นทุนอย่างไร

Cost of Building a Super App : ต้นทุนในการสร้าง Super App

ประการแรก คือ การสร้าง Super App เป็นเรื่องที่ท้าทาย และมีการลงทุนที่สูง ต้นทุนรวมคำนวณมาได้จาก Features ความสลับซับซ้อน และเวลาที่ใช้ในการพัฒนา Super App เป็นแพลตฟอร์มที่ประกอบไปด้วย คุณสมบัติ หรือบริการ ต่างๆ จำนวนมาก ที่ยอมให้ผู้ใช้งานเข้าถึงฟังก์ชั่นการทำงานที่กว้างขวางภายใต้การใช้งานเพียงแอพฯ เดียว โดยมี WeChatGrab, และ Gojek ที่เป็นตัวอย่างของ Super App เพียงไม่กี่ตัวที่เป็นที่รู้จักและประสพความสำเร็จ.

ต้นทุนในการสร้าง Super App สามารถที่จะแบ่งได้เป็นหลายขั้นตอน ซึ่งในแต่ละขั้นตอนนั้นจะต้องการทรัพยากรเฉพาะอย่าง ทั้งเรื่องความสามารถของทีมงาน และด้านเงินลงทุน โดยพอจะแบ่งเป็นขั้นตอนได้ดังนี้ :

The Cost of Building a Super App

Concept and Planning Stage : ขั้นตอนการออกแบบในหลักการและการวางแผน

เริ่มต้นจนการเลือกกลุ่มเป้าหมาย ตลาดผู้ใช้บริการ ความต้องการของลูกค้า และ feature ตัวแรกๆ ที่จะต้องมีใน Super App รุ่นแรก มันจึงจะต้องผ่านขั้นตอนการสำรวจตลาด และการวิเคราะห์คู่แข่งขัน ต้นทุนส่วนนี้มากน้อยขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ การทำวิจัย โดยจะมีต้นทุนอยู่ระหว่าง 10,000 – 20,000 เหรียญ และหากเป็นโครงการที่ใหญ่ขึ้นก็อาจจะสูงไปจนถึงหลัก 100,000 เหรียญ หรือ 3.5 ล้านบาท แค่คิดว่าจะทำอะไรให้ตรงเป้านี่ก็มากมายเลยทีเดียว

Design and Prototyping Stage : ขั้นตอนการออกแบบและพัฒนาต้นแบบ

หลักจากที่ได้ทำการวิจัยตลาดเบื้องต้นมาเสร็จแล้ว ขั้นต่อไปคือ การสร้างต้นแบบในส่วนของหน้าจอติดต่อผู้ใช้งาน หรือ User Interface (UI) ประสบการณ์ผู้ใช้งาน User Experience (UX) และฟังก์ชั่นการทำงาน โดยต้นทุนในขั้นนี้ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและความต้องการในการออกแบบ โดยตัวต้นแบบการออกแบบวิธีนี้อาจจะมีต้นทุนอยู่ระหว่าง 5,000 ถึง 15,000 เหรียบญ และโครงการที่ซับซ้อนก็จะมีต้นทุนถึง 50,000 เหรียญ

Development Stage : ขั้นตอนการพัฒนายานแม่

ขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นตอนที่สำคัญที่สุดในการสร้าง Super App เพราะมาถึงขั้นตอนในการสร้าง feature การสร้าง function และองค์ประกอบที่อาจจะเรียกว่าระบบ Infrastructure หรือระบบพื้นฐานที่จำเป็นต้องมี (แม้นลูกค้าจะไม่ต้องการเห็น ไม่ต้องการใช้ก็ตาม) ต้นทุนในขั้นตอนนี้จะขึ้นอยู่กับขนาดของทีมงาน เวลาที่ต้องใช้ องค์ความรู้หรือเทคนิค (Technical stack) การพัฒนาเฉพาะด้านที่ต้องใช้ ต้นทุนการพัฒนาในขั้นตอนนี้จะมีมูลค่าระหว่าง 100,000 – 500,000 เหรียญ หรือ อาจจะมากกว่านั้น

Testing Phase : ขั้นทดสอบการใช้งาน

ขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนการทดสอบว่า Super App จะสามารถทำงานได้ตามที่ออกแบบไว้และตรงตามความต้องการของผู้ใช้งานหรือไม่ โดยต้นทุนจะขึ้นอยู่กับจำนวนเฟส ในการทดสอบ เทคนิควิธีการทดสอบ ขนาดของผู้ร่วมทดสอบ การทดสอบด้วยกลุ่มขนาดเล็กจะมีต้นทุนระหว่าง 10,000 – 20,000 เหรียญ ในขณะที่การทดสอบที่ใหญ่ขึ้น จะมีต้นทุนในระดับ 100,000 เหรียญ

Launch and Marketing Stage : ขั้นการเปิดตัวออกให้บริการสู่ตลาด

ขั้นตอนสุดท้าย คือ การปล่อยแอพออกสู่สาธารณะและเริ่มที่จะมีผู้ใช้งาน ต้นทุนการเปิดตัว Super App ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และช่องทางการตลาดที่ใช้งาน โดยต้นทุนการตลาดแบบเต็มตัวจะมีต้นทุนประมาณ 100,000 เหรียญ

โดยสรุปแล้ว ต้นทุนในการพัฒนา Super App จะขึ้นอยู่กับ feature ความต้องการ ความซับซ้อน และระยะเวลาที่ใช้ในการพัฒนา ต้นทุนการพัฒนาจะอยู่ระหว่าง 200,000 ถึง 1,000,000 เหรียญ
(Read More Understanding the Budget for Mobile App Development by App Type) อ่านต่อเรื่องงบประมาณการพัฒนา Mobile App

Factors Affecting the Cost of Developing a Super App : ปัจจัยกำหนดต้นทุนการพัฒนา Super App

Super App คือ Mobile app ที่ให้บริการลูกค้าด้วยฟังก์ชั่นการบริการที่หลากหลาย เช่น การชำระเงินออนไลน์ การบริการขนส่งสินค้า การสั่งและส่งอาหาร การสร้าง Super App (ตามแบบดั้งเดิม) เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และใช้แรงงานนักพัฒนาจำนวนมาก ที่จำเป็นจะต้องพิจารณาเรื่องการลงทุนทั้งเรื่องเวลา ความพยายามและทรัพยากร จะใช้ต้นทุนมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบเนื้อในและฟังก์ชั่นการทำงานที่ต้องการ

1. Complexity of Features : ความซับซ้อนของ Features

ต้นทุนการพัฒนาขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของ Features ในแอพฯ นั้น ๆ ยิ่งมี feature มากจะยิ่งมีความยากทางเทคนิค เช่น หากต้องการให้มี feature ทางด้าน AR , AI และ ML ก็จะยิ่งมีต้นทุนการพัฒนาที่สูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

2. Platform Support : ต้องใช้งานได้ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ

เพื่อที่จะให้ Super App นั้นมีจำนวนลูกค้าตามที่ต้องการ เจ้าของแพลตฟอร์มจะต้องสร้างให้ Super App ใช้งานได้ในทุก ๆ แพลตฟอร์มปฏิบัติการ ทั้ง iOS, Android และ Windows, Linux ดังนั้นการออกแบบสร้าง Super App ให้ใช้งานได้ในทุกๆ แพลตฟอร์ม ทีมนักพัฒนาจะต้องแน่ใจว่า Software จะสามารถทำงานได้ในทุกแพลตฟอร์ม ค่อยๆ พัฒนาเคลื่อนไปจนครบทั้งหมด และต้องตามด้วยการทดสอบ และค้นหาข้อผิดพลาดต่างๆ

3. Translation and Localization : แปลสภาพ ปรับให้เข้ากับผู้ใช้ในแต่ละประเทศ

การสร้าง Super App ที่มุ่งหวังจะให้เป็นที่นิยมใช้ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก คุณจะต้องปรับ Super App นั้นให้สอดคล้องเข้ากับกลุ่มลูกค้าผู้ใช้งานในแต่ละประเทศนั้น ๆ โดยกระบวนการในการปรับ Super App ให้เข้ากับภาษาท้องถิ่น วัฒนธรรมท้องถิ่น และพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า Localization ซึ่งการแปลงโปรแกรมให้ทำงานเข้ากับแต่ละภูมิภาคก็จะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการพัฒนาให้สูงขึ้น

4. Privacy and Security : ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

เพราะ Super App จะต้องจัดเก็บ จัดการกับข้อมูลที่มีความอ่อนไหวสูง เช่น รายละเอียดการชำระเงิน ข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่และตำแหน่งที่ตั้ง มันจึงเป็นเรื่องที่มีผลสำคัญต่อความสำเร็จของ Super App นั้น ๆ ที่จะต้องแน่ใจว่าข้อมูลนั้นมีความปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัว และเพื่อให้ข้อมูลมีความปลอดภัยจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการแฮก นักพัฒนาจะต้องรวมเอาเรื่องความปลอดภัย เรื่องการเข้ารหัส การตรวจสอบ และการอนุญาต

5. Performance and Scalability : สมรรถนะ และความสามารถในการขยายตัวได้

เพื่อที่จะรองรับการร้องขอและจำนวนลูกค้าที่มีปริมาณมาก Super App จะต้องขยายตัวได้และมีประสิทธิภาพสูง เพื่อเป็นการประกันว่า Super App จะยังคงมีเสถียรภาพและตอบสนองได้ นักพัฒนาจะต้องออกแบบ สถาปัตยกรรมของแอพ ฯ เพื่อรองรับการจราจรข้อมูล (Traffic) และการรับโหลด (Load balancing) การดำเนินการเพื่อให้สามารถขยายตัวได้และมีสมรรถนะแบบนี้ได้จึงต้องการทรัพยากรมากขึ้น รวมไปถึงความพร้อมในระบบ Cloud และสิ่งนี้จะเพิ่มต้นทุนในการพัฒนา

6. Third-Party Service Integration : การรวมเอาโปรแกรม ฟังก์ชั่นบริการจากผู้ผลิตซอฟต์แวร์บุคคลที่ 3

ระบบการบริการจากผู้ให้บริการบุคคลที่ 3 เช่น ระบบการชำระเงิน การบริการของไรเดอร์ และแพลตฟอร์มการส่งอาหาร เหล่านี้คือสิ่งที่จะต้องมีอยู่ใน Super App การรวมเอาบริการเหล่านี้มารวมกันไว้จะต้องการเวลาและเงินทองในการพัฒนามากยิ่งขึ้น นักพัฒนาจะต้องให้แน่ใจว่าแอพพลิเคชั่นเชื่อมต่อกันได้อย่างถูกต้องกับบริการเหล่านั้น เพื่อให้สามารถให้บริการได้อย่างไร้รอยต่อ

7. Updating and Maintenance : การอัพเดทและบำรุงรักษา

เพื่อเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาด การเพิ่มสมรรถนะ และการเพิ่ม feature ใหม่ ตัว Super App จะต้องการการบำรุงรักษาและอัพเกรดอย่างสม่ำเสมอ ต้นทุนในการบำรุงรักษาและอัพเกรดนี้จะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและและความถี่ในการอัพเดท นักพัฒนาจะต้องตรวจสอบว่า ตัวโปรแกรมยังคงสอดคล้องเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการและเครื่องมือ (Device : Mobile . Laptop, Desktop ..) ซึ่งจะต้องคอยทำการทดสอบและพัฒนาเพิ่มเติม

Important Features of a Successful Super App : Feature สำคัญของ Super App ที่ประสบความสำเร็จ

Super App ตามความหมายในปัจจุบัน หมายถึง แอพพลิเคชั่นหลากหลายวัตถุประสงค์ในโทรศัพท์มือถือ ที่มาพร้อมกับการบริการและฟังก์ชั่นการทำงานหลายอย่างให้กับผู้ใช้งาน Super App มีอัตราการเติบโตไปพร้อมๆ กับการเติบโตของอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะใน ภูมิภาคอาเซียนและประเทศจีน

เพื่อที่จะสร้าง Super App ให้ได้รับความนิยมและประสพความสำเร็จ มันจะต้องมีองค์ประกอบจำนวนหนึ่งที่ชัดเจน ที่ตอบความต้องการ ความคาดหวังได้ เราจะมาว่ากันต่อไป

Features สำคัญที่ต้องมีในทุก ๆ Super App

1. User-Friendly Interface : มีหน้าจอที่ใช้ง่ายสำหรับผู้ใช้งาน

ทุกๆ ซอฟต์แวร์ที่ดี โดยเฉพาะ Super App จะต้องมีหน้าจอการใช้งานที่ง่าย หน้าจอต้องง่าย และต้องให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่าย

2. Seamless Integration : การใช้บริการราบรื่น ไร้รอยต่อ

Super App ที่เจ๋งๆ จะต้องมีการเชื่อมโยง เชื่อมต่อ feature ต่างๆ เข้ากันในชนิดที่ไม่ต้องให้ผู้ใช้ลำบาก ผู้ใช้จะต้องสามารถสวิทซ์จาก feature หนึ่งไปอีก feature หนึ่งได้อย่างไม่ขาดตอนหรือ สะดุด

3. Mobile Payments : การชำระค่าบริการผ่านทางมือถือ

เพราะการชำระเงินผ่านทางมือถือได้กลายเป็นที่ยอมรับไปอย่างกว้างขวาง ดังนั้น Super App จะต้องมีความสามารถนี้ แอพจะต้องยอมรับระบบชำระเงินแบบต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย ไว้ใจได้ และง่ายในการใช้งาน

4. Social Media Integration : ความเชื่อมโยงกับ Social media อื่นๆ

องค์ประกอบสำคัญอีกส่วนของ Super App ที่ดี คือ การเชื่อมโยงกับระบบ โซเชียลมีเดีย เช่น FacebookInstagram, และ  Twitter  Super App ต้องมีช่องทางให้ผู้ใช้งานเชื่อมโยงระสบการณ์การใช้งานไปแพลตฟอร์มอื่นได้ด้วย

5. Personalization : ปรับตามสไตล์ผู้ใช้งาน

Super App ที่จะประสบความสำเร็จได้ ควรจัดระบบให้ผู้ใช้ปรับสิ่งต่างๆ ได้ตามสมควร เช่น มีช่องทางให้ส่งคำแนะนำได้ มีระบบแจ้งเตือน ไปตามรูปแบบการใช้ ความชอบส่วนบุคคล

6. Multi-language Support : สนับสนุนหลายภาษา

เพื่อให้สามารถรองรับผู้ใช้ได้มากขึ้น ซอฟต์แวร์ที่ดีควรจะต้องรองรับได้หลายภาษา ภาษาท้องถิ่นของประเทศก่อตั้งแอพนั้น และภาษาต่างประเทศ เช่น อังกฤษ ภาษาจีนแมนดาริน และภาษาสเปน เป็นต้น

7. Location-Based Services : การปรับหน้าตา รูปแบบการบริการตามตำแหน่งที่อยู่ผู้ใช้

Super App ที่จะประสบความสำเร็จได้ ควรจัดระบบให้ผู้ใช้ปรับ สิ่งแวดล้อมการใช้งานให้เข้ากับพื้นที่ เช่น แผนที่แบบ realtime ระบบนำทาง เมนู และการค้นหาสิ่งต่างๆ ในพื้นที่ ๆ อยู่ใกล้เคียงก่อน ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาบริการ ร้านอาหาร ร้านค้า โรงแรม ที่อยู่ใกล้เคียงได้อย่างรวดเร็วก่อน และค่อยเลือกค้นหาแบบทั่วไปได้

8. Customer Assistance : ระบบผู้ช่วยส่วนตัว

Super App ที่จะประสบความสำเร็จได้ ควรจัดระบบให้ผู้ใช้มีระบบผู้ช่วย เช่น การแชท การส่งอีเมล์ และระบบโทรศัพท์ภายในแอพ เช่น Line call, messager call เป็นต้น

9. In-App Advertising : ระบบโฆษณาในแอพ

ระบบนี้จะช่วยให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มอีกทางหนึ่ง โดยโฆษณานี้จะปรับเปลี่ยนตามภูมิศาสตร์ และพฤติกรรมของผู้ใช้ เรียกได้ว่า ทุก Super App มีการทำโฆษณาภายในแอพนี้

10. App Analytics : การวิเคราะห์ภายในระบบแอพ

ท้ายที่สุดแล้ว Super App จะต้องมีระบบเอาไว้วิเคราะห์ว่า ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับแอพอย่างไร ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือนักพัฒนาให้นำไปปรับปรุงแอพฯ ได้ เช่น ระบบ การมีส่วนร่วม การรักษาลูกค้า และ ระบบบันทึก conversion rate

Steps to Develop a Super App : ขั้นตอนการพัฒนา Super App

การสร้าง Super App ที่จะเป็น Super App ชั้นนำได้นั้น จะต้องมีการวางกลยุทธ์ที่แยบคาย มีการดำเนินการและมุ่งเน้นไปในสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ ต่อไปนี้คือ ขั้นตอยสำคัญในการที่จะสร้าง Super App :

Identify the Need : ระบบุความต้องการ

ขั้นตอนแรกสุดคือการประเมินค้นหาความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยการทำการวิจัยทางการตลาดเพื่อให้สามารถเข้าใจช่องว่าง เข้าใจข้อกังวลของลูกค้าต่อ Solutions ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ด้วยวิธีนี้ มันจะช่วยให้คุณสามารถออกแบบ feature ที่สำคัญที่ควรมีอยู่ใน Super App ของคุณ

Define the Scope : กำหนดกรอบ ขอบเขตให้ชัด

หลังจากได้ทำการค้นหาประมวลความต้องการแล้ว จงทำการกำหนดกรอบขอบเขตของ Super App ของคุณ เลือก Feature และฟังก์ชั่นที่ต้องการและจัดลำดับความสำคัญ วิธีการนี้จะช่วยให้คุรกำหนด roadmap ในการพัฒนาได้ชัดเจน ไม่หลงทาง ไม่เสียเวลา

Choose the Right Platform : เลือกแพลตฟอร์ม เครื่องมือที่ใช่

การเลือกเครื่องมือ เลือกแพลตฟอร์มที่ใช่ มีความสำคัญต่อการสร้าง Super App ของคุณ คุณสามารถที่จะสร้างทั้ง native app ของ iOS หรือ Android หรือจะเลือกสร้างแบบ cross platform แต่ละแพลตฟอร์มล้วนแลวแต่มีข้อดีข้อเสียของมัน และจงเลือกวิธีการที่ตอบโจทย์ของคุณ คลิกเพื่ออ่านต่อ การเปรียบเทียบการออกแบบ UI ในแต่ละแบบ (Read more Android vs iOS: Differences and Comparisons in App UI Design)

Design the User Interface : ออกแบบ UI หน้าจอติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้

UI คือ ส่วนที่สำคัญมาก ถึงสำคัญที่สุด ของซอฟต์แวร์ใด ๆ ในโลกนี้ มันควรที่จะต้องใช้งานง่าย ดูสวยงาม จึงต้องทำงานร่วมกันกับทีมออกแบบเพื่อให้ได้ UI ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย (นี่ก็เป็นทฤษฎี แต่หากจะแหกคอก ก็น่าลอง แต่ก็มีความเสี่ยง)

Develop the App : ขั้นลงมือพัฒนาแอพ

เมื่อการออกแบบดูจะเป็นที่ชัดเจน เข้าใจตรงกันแล้ว การพัฒนาแอพฯ ก็สามารถที่จะเริ่มต้นขึ้นได้ ว่าแล้ว ก็ทำการว่าจ้าง สร้างทีมพัฒนาที่มีความชำนาญในการสร้างแอพฯคุณภาพสูง กระบวนการพัฒนาจะเป็นกระบวนการที่ต้องทำต่อเนื่อง ต้องทดสอบและประเมินผลตอบรับจากลูกค้าเป้าหมายซ้ำแล้วซ้ำอีกจนมีคุณภาพได้ตามที่ต้องการ

Integrate Third-Party Services : เชื่อมต่อบริการภายนอกเข้าด้วยกัน

แอพฯ ที่ดีจะต้องสามารถทำงานเชื่อมโยงกับบริการกลางได้อย่างดี เช่น ระบบชำระเงิน แพลตฟอร์มโซเชียล (เว้นเสียแต่คุณจะเป็น Super Social App ไปในตัวด้วย) ระบบรับส่งข้อความ จงตรวจสอบดูว่า แอพฯ ของคุณมีทุกสิ่งที่ต้องการและจำเป็น

Test the App : ทดสอบแอพฯ

การทดสอบแอพฯ เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในกระบวนการผลิต การทดสอบอย่างเข้มข้นจริงจังจำเป็นเพื่อจะให้เป็นที่แน่ใจว่าวอฟต์แวร์จะสามารถทำงานได้ตามที่วางแผนไว้โดยไม่มีข้อผิดพลาดเลย จงทดสอบด้วยหลายๆ อุปกรณ์ ทุกระบบปฏิบัติการ และทดสอบการตั้งค่าเครือข่ายต่างๆ

Launch the App : เปิดตัว ใช้งานระบบอย่างเป็นทางการ

เมื่อได้ทำการตรวจสอบ ทดสอบ และอนุมัติผลแล้ว มันก็ควรจะถูกนำส่งขึ้นไปที่แอพสโตร์ จงทำให้มั่นใจว่าคุณได้วางแผนการตลาดไว้แล้ว เพื่อจะโปรโมทแอพของคุณให้เข้าถึงกลุ่มป้าหมายของคุณ

Monitor the App : เฝ้าติดตาม Super App ของคุณ

การเปิดตัวแอพฯ ของคุณเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น คุณต้องเฝ้าติดตามผลการทำงาน ผลการให้บริการแอพฯ ของคุณ ว่ามันยังคงทำงานได้ดีและตอบสนองความต้องการลูกค้าของคุณได้ เพื่อที่จะค้นหาจุดที่จะต้องปรับปรุง คุณต้องติดตามผลตอบรับ สมรรถนะของแอพฯ และรุปแบบจังหวะเวลา สไตล์การใช้งานของลูกค้า

Continuous Improvement : พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

A great app is never finished แอพฯที่ดีที่สุด ไม่เคยเสร็จ มันไม่มีอยู่จริง คุณต้องคอยเฝ้าเพิ่มสมรรถนะแอพฯของคุณให้ดียิ่งๆ ขึ้นอยู่เสมอ เพื่อตอบสนองต่อผลตอบรับจากลูกค้าและการเปลี่ยนแปลงสภาวะในตลาด เพื่อรักษาความมีส่วนร่วมและความพึงพอใจของลุกค้า จงส่งมอบการอัพเดทระบบด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ และแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ

Conclusion : บทสรุป

การพัฒนา Super App เป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ต้นทุนการผลิตจเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันไปมากขึ้นอยู่กับความซับซ้อน จำนวนของ features และระดับความต้องการให้ customize ได้ แต่ในทางกลับกัน การลงทุน Super App จะเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูง จากการมีผู้ใช้จำนวนมากและเกิดแหล่งรายได้ใหม่จำนวนมาก

Views: 169